เครื่องมือจัดฟันแบบใส (Clear Aligners) คืออะไร

เครื่องมือจัดฟันแบบใส (Clear Aligners) เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ทำจากพลาสติกใส
เมื่อใส่ครอบลงบนฟันก็จะมองเห็นได้ยากต้องสังเกตดีๆ จึงจะมองเห็น เหมาะกับผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ คนที่ไม่ชอบเหล็กจัดฟัน หรือผู้ป่วยบางอาชีพ ที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นเครื่องมือจัดฟันในปาก แบบชัดเจนเกินไป ซึ่งเครื่องมือจัดฟันแบบใส่สามารถถอดเข้าออกได้หลายๆ คนอาจคุ้นรู้จักเครื่องมือจัดฟันแบบใสในชื่อ อินวิสไลน์ (Invisalign) ซึ่งจริงๆ แล้ว อินวิสไลน์เป็นชื่อยี่ห้อเครื่องมือจัดฟันแบบใสยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งอินวิสไลน์ คือ ผู้บุกเบิกและเป็นผู้นำในเรื่องการวิจัยและพัฒนา ทำให้เป็นยี่ห้อเครื่องมือจัดฟันแบบใสที่มีคนรู้จักกันมากที่สุด

หลักการทำงานของเครื่องมือจัดฟันใส

การทำงานของเครื่องมือจัดฟันแบบใส จะใช้วิธี “เปลี่ยนรูปร่างทีละน้อย” โดยแผ่นพลาสติกใสด้านที่สัมผัสกับฟันจะค่อยๆ ส่งแรง เพื่อเคลื่อนฟันไปสู่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ ผู้ป่วยจะต้องเปลี่ยนชิ้นใหม่ประมาณทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งเครื่องมือจัดฟันแต่ละชิ้นจะถูกออกแบบให้เฉพาะบุคคล โดยคุณหมออาจเป็นผู้ออกแบบเองหรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยจำลองการเคลื่อนฟัน รวมถึงการควบคุมและวินิจฉัยอีกที เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบใสมาใส่จริงๆ การตอบสนองต่อการรักษาของร่างกายแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน และนั่นยังเป็นสิ่งที่คอมพิวเตอร์คาดเดาไม่ได้

ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นทางด้านความทันสมัยและดูสบายตา จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายๆ คนอยากจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบใส ถ้าอย่างนั้นลองมาอ่านสรุปข้อดีข้อเสียของเครื่องมือจัดฟันชนิดนี้ก่อนตัดสินใจดีกว่าค่ะ

ข้อดีของเครื่องมือจัดฟันแบบใส

  • สังเกตได้ยาก เพราะทำจากพลาสติกใส หากไม่มองแค่ผิวเผินแทบจะดูไม่ออกว่าจัดฟันทำให้เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเหล็กจัดฟัน หรือคนที่ทำอาชีพที่ต้องการภาพลักษณ์ที่ดูดี อย่าง แอร์โฮสเตส ดารา หรือ นายแบบ-นางแบบ
  • สามารถถอดเข้าออกได้ ทำให้ดูแลได้ง่าย แปรงฟันได้สะอาดทั่วถึง ลดโอกาสที่จะเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือก
  • สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารแข็งๆ
  • ทันตแพทย์สามารถทำงานได้สบายขึ้น เพราะไม่ต้องคอยปรับเครื่องมือแบบเดิมๆ ไม่ต้องแกะลวด เปลี่ยนยาง ไม่มีปัญหาเครื่องมือหลุดเพราะเครื่องมือจัดฟันแบบใส่มีชิ้นส่วนน้อย จึงง่ายต่อการดูแลรักษา

ข้อเสียของเครื่องมือจัดฟันแบบใส

  • มีข้อจำกัดในการรักษา เพราะตัววัสดุที่ทำจากแผ่นพลาสติกใส และจากลักษณะการทำงานของเครื่องมือซึ่งยังเคลื่อนฟันบางรูปแบบได้ไม่ดีพอ หรืออาจทำได้แต่ก็ยุ่งยากมากจนทำให้มีค่าใช้จ่ายในการจัดฟันที่สูงขึ้น
  • แม้จะสามารถถอดเข้าออกได้แต่การจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันแบบใส ก็จำเป็นต้องใส่เครื่องมือแบบใส ไม่ต่ำกว่าวันละ 20-22 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเกือบทั้งวันแทบไม่ต่างกับเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น
  • ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีสี อาทิ กาแฟ น้ำหวานที่มีสี เพราะสีเหล่านั้นจะไปติดอยู่บนเครื่องมือทำฟันของเราคล้ายโดนย้อมสี ดังนั้นหากไม่อยากถอดเครื่องมือเข้าๆ ออกๆ ก็ควรเลือกดื่มแต่น้ำเปล่า
  • กินได้ไม่มีข้อจำกัด แต่ต้องถอดเครื่องมือก่อน ไม่อย่างนั้น น้ำตาลและแบคทีเรียจะเข้าไปติดตามผิวฟัน ซึ่งเครื่องมือจัดฟันแบบใส จะกลายเป็นตัวป้องกันไม่ให้น้ำลายหรือน้ำเปล่าเข้าไปชะล้างน้ำตาลและแบคทีเรียออก
  • ราคาค่อนข้างสูงมาก

นอกจากข้อดีข้อเสียแล้ว ยังมีอีกสองข้อที่หลายคนเข้าใจผิดอยู่

“ความเบาสบายไม่อึดอัด” แต่ในความเป็นจริง การเรามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปาก
ย่อมทำให้เกิดการระคายเคืองในช่องปากอยู่แล้ว และในบางรุ่นถูกออกแบบมาให้มี (Attachments) ซึ่งทำจากวัสดุสีเหมือนฟัน และแบร็กเก็ตเหล็กสำหรับเกี่ยวยาง (Buttons) ติดลงบนผิวฟัน เพื่อช่วยดึงยางเหมือนในเหล็กจัดฟัน และอีกข้อที่ถูกโฆษณาเกินจริงคือ “จัดฟันแบบใสไม่เจ็บ” ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เพราะยังไม่มีเครื่องมือจัดฟัน ที่เคลื่อนฟันได้โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บ เมื่อเราได้เปลี่ยนชุดเครื่องมือใหม่ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ความเจ็บปวดจะอยู่กับเราไปอีก 2-3 วัน ซึ่งทั้งสองข้อนี้ ทำให้เครื่องมือจัดฟันแบบใส แทบไม่ต่างกับเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นอื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์เหมือนกันแต่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่ามาก หากคุณไม่ได้มีปัญหาฟันที่ซับซ้อน และสามารถจ่ายได้สบายล่ะ